Ducati Scrambler Icon Full Throttle Urban Enduro Classic

Ducati 803cc. Scrambler 2015 / Icon / Urban Enduro / Full Throttle / Classic -
Ducati Scrambler Icon

-
Ducati Scrambler Urban Enduro

-
Ducati Scrambler Full Throttle

-
Ducati Scrambler Classic

-
     Ducati Scrambler ปี 2015 มอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็ก ดีไซน์คลาสสิก ดูคาติ สแครมเบลอร์ เครื่องยนต์ขนาด 803 ซีซี เปิดราคา 275,500 บาท



     ดูคาติ (Ducati) ค่ายมอเตอร์ไซค์ชั้นนำจากประเทศอิตาลี เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์สวยคลาสสิกพร้อมชื่่อที่เคยอยู่คู่กับดูคาติ ก่อนจะหายไปนานเกือบ 40 ปี กับ ดูคาติ สแครมเบลอร์ (Ducati Scrambler) รุ่นปี 2015 มาพร้อมดีไซน์สวยเท่ ขนาดพอเหมาะแต่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กำลังแรง



     เดิมทีแล้ว ดูคาติ สแครมเบลอร์ เป็นมอเตอร์ไซค์วิบากรุ่นดั้งเดิมของดูคาติที่ผลิตในช่วงปี 1962-1971 ซึ่งสแครมเบลอร์ รุ่นปี 2015 เองก็ยังคงคอนเซ็ปต์การออกแบบเดียวกับเมื่อ 40 ปีก่อน และผสานเอาอุปกรณ์อันทันสมัยมาติดตั้งได้อย่างลงตัว ทั้งไฟหน้าดวงกลมแบบ LED ล้อหน้าขนาบด้วยโช้คอัพกลับหัว แฮนด์รถยกแบบสูง มาตรวัดทรงกลมหน้าจอ LCD ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เบาะนั่งแบบยาว ด้านข้างโชว์เฟรมรูปสามเหลี่ยม ด้านหลังเองก็มีไฟท้ายดวงเล็กขนาดพอเหมาะ



     ตัวรถมีขนาด 2,165 มิลลิเมตร กว้าง 845 มิลลิเมตร สูง 1,150 มิลลิเมตร ระยะห่างช่วงล้อขนาด 1,445 มิลลิเมตร ด้านล้อสวมล้ออัลลอย ล้อหน้ามีขนาด 17 นิ้ว ส่วนล้อหลังมีขนาด 18 นิ้ว โดยมิติรถไม่รวมล้อนั้นถือว่าขนาดใกล้เคียงกับมินิไบค์อย่าง ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ (Honda MSX) และคาวาซากิ เคเอสอาร์ (Kawasaki KSR) อยู่พอสมควร



     ด้านเครื่องยนต์ ดูคาติ สแครมเบลอร์ (Ducati Scrambler) รุ่นปี 2015 เปลี่ยนจากเครื่องยนต์แบบ 1 สูบในสมัยก่อน หันมาใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ L-Twin ขนาดใหญ่ถึง 803 ซีซี ให้กำลัง 75 แรงม้า แรงบิด 68 นิวตันเมตร แม้เครื่องยนต์จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็จัดวางได้อย่างมีสมดุลที่ดี ส่วนน้ำหนักตัวรถหนักเพียง 170 กิโลกรัม จึงสามารถขับขี่ได้ง่าย ทั้งยังติดตั้งระบบเบรก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย

     ดูคาติ สแครมเบลอร์ (Ducati Scrambler) รุ่นปี 2015 มีรุ่นย่อยให้เลือกถึง 4 ชุด ได้แก่ รุ่น Icon มาพร้อมตัวรถแบบมาตรฐานพร้อมแต่งตามใจ รุ่น Full Throttle แต่งแบบสปอร์ตสวยงามด้วยสีดำด้าน ชุด Urban Enduro มาในแนวพร้อมลุย และชุด Classic ตกแต่งอย่างคลาสสิกดั้งเดิม โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8,495 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 275,500 บาท) ส่วนการจำหน่ายจะเริ่มภายในต้นปี 2015 ครับ

ดูคาติ Ducati Scrambler ปี 2014-2015 ราคา 803 cc
เรียบเรียงข้อมูลโดย kapook
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

Ducati Monster 796 ปี 2011

Ducati ได้ประกาศเปิดตัว มอเตอร์ไซค์ Monster 796 รุ่นปี 2011 ซึ่งเป็นรุ่นระหว่าง 696 และ 1100 นี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 167 กิโลกรัม ให้กำลัง 87 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีระบบ ABS เป็น option โดยติดป้ายตั้งราคาไว้ที่ 7,695 ปอนด์ในประเทศอังกฤษ ซึ่งตกประมาณ 9,000 ยูโร หรือ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
Ducati Monster 796 ปี 2011 โดยจะเริ่มมีจำหน่ายตามโชว์รูมต่างๆ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้




ประวัติของ DUCATI รถจักรยานยนต์ Ducati ได้กลายมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ได้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1926 โดยสามพี่น้องชาวอิตาลี Ducati เริ่มต้นจากการก่อตั้งธุรกิจ บริษัทอุตสาหกรรมผลิตส่วนประกอบวิทยุกระจายเสียงก่อนที่จะหันเห มาผลิตรถจักรยานยนต์ Cucciolo ได้ถูกผลิตขึ้นและจำหน่ายเพื่อใช้เป็นองค์ประกอบในการติดตั้งจักรยานต่อมาได้ถูกพัฒนาเพื่อใช้กับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ทำให้ Ducati ได้รับการยอมรับ ปี ค.ศ. 1952 Cruiser 175 cc ได้กำเนิดขึ้น ตามมาด้วย Spartan 98 cc ในปี ค.ศ. 1953 และเปลี่ยนเป็น 125 cc ในเวลาต่อมา ปี ค.ศ. 2001 Ducati ได้สูญเสีย Bruno Ducati หนึ่งในสามพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้ง Ducati แต่ความฝันของ Ducati ยังคงดำเนินต่อไป ปัจจุบัน Ducati ยังคงเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

โรงงาน DUCATI ทุ่มงบสร้างในไทย

ค่ายสองล้อยักษ์ใหญ่ ดูคาติ ทุ่มงบ 879 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตบิ๊กไบค์ ราคาหน้าโรงงานเฉลี่ย แค่ 3.3 แสนบาท เบื้องต้นผลิต 1.7 หมื่นคันต่อปี เน้นตลาดส่งออกเอเชียเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าหมายผลดำเนินงาน 4 ปี กวาดรายได้เกือบ 3 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากดูคาติเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นายSilvano Fini จาก Ducati Motor Holding SPA จากประเทศอิตาลี ได้เตรียมลงทุน 879 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียน 220 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานบนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ จังหวัด ระยอง (เขต 2) โดยจะผลิตรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะขนาดตั้งแต่ 500 ซีซี - 1200 ขึ้นไป และคาดว่าจะผลิตรุ่น Monster, 0803, MTS, New SBK และ New HYM เป็นต้น โดยมีกำลังการผลิตต่อปี 17,000 คัน ซึ่งจะเน้นส่งออกประมาณ 95% ไปยังตัวแทนจำหน่ายในแถบเอเชีย เช่น จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ขณะที่ตลาดในประเทศไทยจะมีการจำหน่ายเพียงแค่ 5%
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนของ Ducati Motor Holding SPA มีสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2469 โดยทำการผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในแบรนด์ ดูคาติ ซึ่งที่ผ่านมามีชื่อเสียงและได้รับรางวัลมากมายอาทิ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ
การเข้ามาลงทุนในครั้งนี้มีการใช้วัตถุดิบในประเทศ เช่น ชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนพลาสติก ระบบและอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ มูลค่ารวมประมาณ 312.3 ล้านบาทต่อปี และนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ มูลค่ารวมประมาณ 1,733.9 ล้านบาทต่อปี ขณะที่การนำเข้าเครื่องจักรกลจะมาจากประเทศอิตาลี และญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าในการนำเข้ามาประมาณ 319.4 ล้านบาท และโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทย 190 คนและต่างชาติ 3 คน
ขณะที่แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีแรกของการผลิต คือตั้งแต่ปี 2554 - 2556 จะมีการลงทุนในสายการประกอบรถจักรยานยนต์เป็นหลัก โดยจะนำเข้าโครงรถจากผู้ผลิตในประเทศเวียดนามและเครื่องยนต์จากบริษัทแม่ที่อิตาลี และในปี 2557 ที่คาดว่ามีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น จะเริ่มเชื่อมประกอบโครงรถจักรยานยนต์ และผลิตเครื่องยนต์ เริ่มตั้งแต่การแมตชิ่งชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ ได้แก่ Cylinder Head และ Crankcase โดยจะเป็นในรุ่น Monster Family ส่วนในรุ่นอื่นๆยังคงเป็นการนำเข้าโครงสำเร็จรูป

ส่วนสาเหตุที่มีการประกอบโครงรถและผลิตเครื่องยนต์เฉพาะในรุ่น Monster Family (M800 และ M1100) เนื่องจากเป็นรุ่นที่ผลิตมากที่สุดและมีจุดคุ้มทุนในการผลิต โดยมีการประเมินว่า ราคารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่จากโรงงานนี้อยู่ที่คันละ 329,088 คัน ซึ่งการเชื่อมโครงรถและผลิตเครื่องยนต์จะผลิตจำนวนอย่างน้อยเท่ากับจำนวนรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นที่ประกอบรวมกันในประเทศไทยในแต่ละปี เพื่อทดแทนในส่วนของจักรยานยนต์บางรุ่นที่ไม่ได้ผลิตโครงรถและเครื่องยนต์เอง ทั้งนี้เพราะบางรุ่นที่ผลิตน้อยจะไม่มีความคุ้มทุน ขณะที่ส่วนของโครงรถและเครื่องยนต์ที่ผลิตออกมาแล้วไม่ได้ประกอบเป็นรถจักรยานยนต์จะถูกส่งกลับไปยังบริษัทแม่ที่อิตาลี ซึ่งแต่เดิมโรงงานอิตาลีจะนำเข้าโครงรถจากเวียดนาม
ทั้งนี้คาดว่ารายได้จากการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยครั้งนี้ ในปีแรก แบ่งออกเป็นในประเทศ 56.2 ล้านบาท ต่างประเทศ 170.2 ล้านบาท ,ปีที่ 2 ในประเทศ 144.8 ล้านบาท ต่างประเทศ 649.6 ล้านบาท ,ปีที่ 3 ในประเทศ 308.8 ล้านบาท ต่างประเทศ 1,492.1 ล้านบาท และปีที่ 4 ในประเทศ 470.3 ล้านบาท ต่างประเทศ 2,419 ล้านบาท
ขณะที่ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ได้ให้การส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ 1 รายคือ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์(ไทยแลนด์) จำกัด โดยผลิตรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ขนาดตั้งแต่ 500 ซีซี ขึ้นไป มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 54,000 คัน และเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ปีละประมาณ 80,000 เครื่อง มีขนาดการลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท

ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,599 9-12 มกราคม พ.ศ. 2554